วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เรื่องอานาปานสติ

เรื่องอานาปานสติ พระพุทธเจ้าท่านก่อนตรัสรู้ท่านสำเร็จญานฌาณสมาบัติชั้นสูงมาหมดแล้วสามารถแสดงปาฏิหารย์ได้แต่ก็ไม่ใช่หนทางหลุดพ้นเมื่อท่านหลุดพ้นอาสวะกิเลศแล้วเป็นอรหันต์แล้วท่านก็อยู่ในอานาปานสติมันคือสุขของพระอรหันต์อย่างหนึ่งแต่ก็มิได้ยึดถือเป็นเจ้าของการดูลมหายใจเข้าออกเป็นเอกะสมาธิคือคิดสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่มีนิวรณ์เรียกว่าไม่มีความคิดใดๆเจ้ามาแทรกหนึ่งชั่วโมงสองชั่วโมงสามชั่วโมงเรียกว่าเป็นเอกะสมาธิประเสร็ฐแท้แต่ก็ยังไม่เป็นอุเบกขาสมาธิคือไม่ยึดติดแม้เอกะสมาธิซึ่งเป็นความสุขอย่างหนึ่งเราเก่งขนาดพระพุทธเจ้าแล้วหรือเป็นอรหันต์แล้วหรือที่จะดูลมสมาธิแบบอรหันต์เขาทำกันสมาธิซักตัวก็ไม่รู้จะเอาผลไม้ก็ต้องปีนแต่โคนต้นไม่ใช่กระโดดไปเก็บมันก็ตกมาตายเท่านั้นเองการดูลมของพระพุทธเจ้าเป็นการดูลมแบบพระอรหันต์ที่สำเร็จกสิณดินน้ำลมไฟสมาธิฌานสมาบัติทุกอย่างตัวของเราสำเร็จแล้วหรือที่จะมาดูลมแล้วไปนิพพานทำให้ตัวเองสำเร็จก่อนแล้วค่อยดูลมเราดูลมแบบของเรากับแบบพระพุทธเจ้าต่างกันตรงที่ท่านสำเร็จทุกอย่างเป็นพระอรหันต์แล้วดูลมแล้วเราเป็นอะไรสำเร็จแล้วหรือพระพุทธเจ้าท่านมีสมาธิเป็นเอกเข็มแข็งมากเป็นพระอรหันต์ท่านใช้และอยู่กับอานาปานสติเป็นเอกะสมาธิใช้ปัญญาพิจารณาสังขารวิญญาณอยู่กับลมเป็นเอกะสมาธิไม่มีอะไรเข้ามาแทรกในที่สุดท่านก็ปล่อยวางเป็นอุเบกขาสมาธิไปมาอย่างนี้เป็นลักษณะความสุขของพระอรหันต์อย่างหนึ่งการดูลมเข้าออกเป็นเอกะสมาธิเรียกว่าการเป็นอยู่นั่งนอนเดินของพระอรหันต์ถามว่าเราเป็นพระอรหันต์แล้วหรือยังหมดกิเลศแล้วหรือยังที่จะทำได้อย่างนี้โดยที่จิตใจยังมีกิเลศตัณหาเต็มหัวใจดูลมไปก็เท่านั้นกิเลศก็ยังเต็มอยู่อย่างนั้นถ้าหมดกิเลศตัณหามีสมาธิเป็นเอกเข็มแข็งแล้วดูลมนี่ประเสริฐนัก
............................................................................................................
เรานั้นไม่ใช่พระอรหันต์ยังมีกิเลศเต็มหัวใจการใช้อานาปานสติก็ใช้แบบคนที่มีกิเลศใช้แบบอรหันต์ไม่ได้เราดูลมหายใจเพื่อเผากิเลศไอ้ที่จะเผากิเลศได้จริงคือปัญญาปัญญาเกิดจากสมาธิคือดูลมจนเป็นสมาธิเป็นเอกะสมาธิคือเป็นหนึ่งเดียวอยู่กับลมหายใจจนเกิดปัญญาเผาผลาญกิเลศยังไม่เป็นอุเบกขาสมาธิคือการปล่อยวางแม้เอกะสมาธิที่ทำอยู่ ลมหายใจเข้าออกเป็นรูปธรรมเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายคือลม ดินน้ำไฟเห็นยาก ลมเห็นง่ายกว่าสัมผัสได้ง่ายกว่าจึงยึดลมเป็นเอกะสมาธิสิ่งที่ได้จากการดูลมคือเกิดสมาธิสร้างปัญญาเผากิเลศอานาปานสติเปรียบเป็นกลอุบายเพื่อให้หยั่งถึงจิตใจทำให้นิ่งและเกิดพลังสมาธิเมื่อสมาธิเต็มปัญญาก็เดินแต่เมื่อใดเรานั้นเกิดสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วหมดสิ้นอาสวะกิเลศแล้วสิ้น อานาปานสติก็เป็นเพียงลักษณะความสุขที่พระอรหันต์ใช้เพื่ออยู่รอวันไปนิพพานเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แค่คิดว่าอยากเป็นคนดี ก็ใช้ได้แล้วเพื่อน

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น